ลำดับพระจักรพรรดิของโรมันที่สำคัญ
๑. ออกุสตุส (Augustus) ๓๐
ปีก่อน ค.ศ.-ค.ศ.๑๔ นับเป็น “ยุคทองของโรม”
๔. เนโร (Nero) ค.ศ.
๕๔-๖๘ เป็นจักรพรรดิที่โหดเหี้ยมมาก เพราะทรงฆ่าพระมารดา, พระอนุชา,
ชายา ๒ องค์ รวมทั้งพระอาจารย์ของพระองค์เองคือ เซเนคา
ปรัชญาเมธีผู้มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง
รวมทั้งเป็นผู้ที่ทำการจุดไฟเผากรุงโรมเพียงเพื่อความบันเทิงของตัวเอง
ป้ายความผิดให้พวกคริสเตียน และประหารชีวิตเสียเป็นจำนวนมาก
ในปลายรัชสมัยของพระองค์ได้เกิดจลาจลขึ้นในโรม จักรพรรดิเนโรปลงพระชนม์พระองค์เอง
ใน ค.ศ. ๖๘ นับเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์จูเลียน
๕.
เวสปาเชียน (Vespasian) ค.ศ. ๖๙-๗๙
เดิมเป็นแม่ทัพที่ปราบปรามจลาจลในโรมตอนปลายสมัยเนโรได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิราชวงศ์เลเวียน
งานชิ้นสำคัญคือโคลอสเซียม
ได้ทรงส่งโอรสติตุส ไปปราบปรามและทำลายกรุงเจรูซาเล็มในปาเลสไตน์
๖. ทราจัน (Trajan) ค.ศ.
๙๘-๑๗๗ รวมรูมาเนีย (ดาเซีย)
เข้ามาอยู่ในบังคับของโรมและขยายอาณาจักรโรมันออกไปกว้างขวางยิ่งขึ้น
๗. เฮเดรียน (Hadrian) ค.ศ.
๑๑๗-๑๓๘ ทรงขยายแนวป้องกันการรุกรานออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอังกฤษ ในยุโรปกลาง
ระหว่างลุ่มแม่น้ำไรน์และแม่น้ำดานูบ เพื่อป้องกันการรุกรานของพวกอารยชน
๘. มาร์คุส ออเรลีอุส (Marcus Aurelius)
ค.ศ. ๑๖๑-๑๘๐
นับว่าเป็นกษัตริย์พระองค์สุดท้ายที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นจักรพรรดิที่มี ๕
พระองค์ (ค.ศ. ๙๖-๑๘๐) ทรงเขียนหนังสือ “Meditations” บรรยายหลักปรัชญาในแนวสโตอิค
คือถือความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ
รัชสมัยของพระองค์นี้ถือว่าเป็นสมัยสุดท้ายของสันติภาพโรมัน (Pax Romana)
๙. ไดโอเคลเชียน (Diocletian) ค.ศ.
๒๘๔-๓๐๕
เป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่สามารถทรงจัดการระงับการจลาจลวุ่นวายภายหลังสันติภาพโรมัน
พระองค์ปกครองอาณาจักรภาคตะวันออกของโรมันเป็นส่วนใหญ่
ส่วนทางตะวันตกได้ทรงแต่งตั้งผู้ปกครองอีกองค์หนึ่ง
ซึ่งการแบ่งเช่นนี้ได้นำไปสู่การแบ่งอาณาจักรโรมันออกเป็นภาคตะวันตกและตะวันออกในสมัยต่อมา
๑๐. คอนสแตนติน (Constantine) ค.ศ.
๓๑๒-๓๓๗
รวมจักรวรรดิโรมันเป็นจักรวรรดิเดียวกันได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง และย้ายเมืองหลวงจากโรมไป
ไบแซนติอุม (Byzantium) เปลี่ยนเรียกชื่อใหม่ว่า “คอนสแตนติโนเปิล”
ตามพระนามของพระองค์ (ปัจจุบันคือเมืองอิสตันบุล)
โดยเจตนาจะให้เป็นศูนย์กลางของการปกครองดินแดนทั้งภาคตะวันตกแลตะวันออก
แต่การทั้งนี้กลับทำให้ประชาชนเริ่มรู้สึกแบ่งแยกทางจิตใจ ทางตะวันตกซึ่งมีอิตาลี
สเปน โลกยังยึดอารยธรรมโรมันอยู่(Romanization) แต่ทางตะวันออกซึ่งมีคอนสแตนติโนเปิล
และเอเชียโมเนอร์ต่างรับอารยธรรกรีก (Hellenization)และเมื่อคอนสแตนตินประกาศ
“กฤษฎีกาแห่งมิลาน” (Edict of Milan) แล้ว
คริสตศาสนาก็สามารถเผยแพร่ในอาณาจักรโรมได้09:33 เฟิร์น